สงคราม Live Commerce-Entertainmerce กำลังกลายเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งสองรูปแบบนี้มุ่งเน้นไปที่การดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคผ่านประสบการณ์ที่ทั้งสนุกสนานและมีส่วนร่วม พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไปซื้อสินค้าผ่านทางการดูวิดีโอสั้นหรือ Live Commerce มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนคนไทย นิยมซื้อสินค้าผ่าน Facebook Live
แต่ปัจจุบันการมาของ TikTok ที่ผนวกการค้าออนไลน์เข้าไปในคลิปสั้น (การติดตะกร้า) หรือบริการ TikTok Shop ทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายสินค้าผ่าน TikTok ง่ายขึ้น แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดดังนี้
รูปแบบ: การขายสินค้าแบบไลฟ์สดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, TikTok
จุดเด่น: ผู้ขายสามารถโต้ตอบกับผู้ชมโดยตรง ตอบคำถาม แสดงสินค้า กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ
ตัวอย่าง: แบรนด์เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า อาหาร
ข้อดี: เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง สร้างการมีส่วนร่วม กระตุ้นยอดขาย
ข้อเสีย: ต้องอาศัยทักษะการพูด การนำเสนอ และการขายที่ดี ต้องมีสินค้าที่มีคุณภาพ
รูปแบบ: การผสมผสานความบันเทิงเข้ากับการขายสินค้า เช่น การแสดงดนตรี การไลฟ์สดเล่นเกม การรีวิวสินค้า
จุดเด่น: ดึงดูดความสนใจของผู้ชมผ่านความบันเทิง สร้างการจดจำแบรนด์ กระตุ้นให้เกิดการซื้อ
ตัวอย่าง: แบรนด์เครื่องดื่ม แบรนด์รถยนต์ แบรนด์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อดี: เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง สร้างการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นยอดขาย
ข้อเสีย: ต้องใช้เงินลงทุนสูง ต้องมีทีมงานที่มีความคิดสร้างสรรค์
Live Commerce และ Entertainmerce เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ แบรนด์ควรเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมกับสินค้า กลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณ สิ่งสำคัญคือต้องสร้างเนื้อหาที่สนุกสนาน น่าสนใจ และมีประโยชน์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม และนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น
เพิ่มเติม
เทรนด์ Live Commerce และ Entertainmerce กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
แบรนด์ไทยหลายรายเริ่มนำกลยุทธ์เหล่านี้มาใช้
ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านไลฟ์สดและช่องทางออนไลน์อื่นๆ
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จใน Live Commerce และ Entertainmerce ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เนื้อหาที่ดึงดูด และเทคโนโลยีที่ทันสมัย