การดึงดูดผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณเป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น การเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเหล่านี้ให้กลายเป็นลูกค้าที่จ่ายเงินอาจเป็นความท้าทายที่ใหญ่กว่า ซึ่งตรงนี้เองที่การรีมาร์เก็ตติ้งเข้ามามีบทบาท การรีมาร์เก็ตติ้งหรือที่เรียกอีกอย่างว่าการรีทาร์เก็ตติ้งเป็นกลยุทธ์โฆษณาออนไลน์ที่กำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อนแต่ไม่ได้ทำการซื้อหรือดำเนินการใดๆ ที่ต้องการ
คุณสามารถเตือนพวกเขาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ โดยการแสดงโฆษณาที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้เยี่ยมชมเหล่านี้แก่ผู้เยี่ยมชมเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้พวกเขากลับมาและตัดสินใจซื้ออีกครั้ง
ตัวอย่างการใช้งาน Remarketing
แสดงโฆษณาสินค้าที่เคยดู: หากลูกค้าเคยเข้ามาดูเสื้อผ้าสีแดงขนาด M คุณสามารถแสดงโฆษณาเสื้อผ้าสีแดงขนาด M ให้พวกเขาเห็นอีกครั้งในขณะที่พวกเขากำลังท่องเว็บไซต์อื่นๆ
แสดงโฆษณาส่วนลดพิเศษ: สำหรับลูกค้าที่เคยเพิ่มสินค้าลงในตะกร้าสินค้า แต่ยังไม่ได้ชำระเงิน คุณสามารถแสดงโฆษณาส่วนลดพิเศษเพื่อกระตุ้นให้พวกเขากลับมาซื้อสินค้า
สร้างความตระหนักในแบรนด์: แสดงโฆษณาแบรนด์ของคุณให้กับกลุ่มคนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อสร้างความจดจำและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
การตลาดแบบรีมาร์เก็ตติ้งทำงานอย่างไร
การตลาดซ้ำใช้คุกกี้ซึ่งเป็นข้อมูลชิ้นเล็กๆ ที่เก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของผู้เยี่ยมชม เมื่อผู้ใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ คุกกี้จะถูกวางไว้ในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ช่วยให้คุณระบุผู้ใช้รายนั้นได้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ในภายหลัง เมื่อผู้ใช้เรียกดูอินเทอร์เน็ต โฆษณาการตลาดซ้ำจะปรากฏบนเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดียที่ผู้ใช้เยี่ยมชม โดยแสดงเนื้อหาที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พวกเขาเคยดู
เหตุใดจึงต้องใช้การรีมาร์เก็ตติ้ง?
เพิ่มอัตราการแปลง
Remarketing ช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่แสดงความสนใจในแบรนด์ของคุณแล้ว การเตือนให้พวกเขารู้จักข้อเสนอของคุณจะทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเหล่านี้ให้กลายเป็นลูกค้ามากขึ้น การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะซื้อมากขึ้นหลังจากเห็นโฆษณา Remarketing โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีส่วนร่วมมาก่อน
การ โฆษณาแบบรีมาร์เก็ตติ้งที่คุ้มต้นทุน
นั้นคุ้มต้นทุนเพราะเน้นไปที่ผู้ใช้ที่แสดงความสนใจในแบรนด์ของคุณแล้ว ซึ่งแตกต่างจากการโฆษณาแบบเดิมที่คุณกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้ชมจำนวนมาก รีมาร์เก็ตติ้งช่วยให้คุณใช้เงินงบประมาณโฆษณาได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นโดยเน้นไปที่ผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะแปลงเป็นลูกค้ามากกว่า
โฆษณาแบบปรับแต่ง
ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของการรีมาร์เก็ตติ้งคือความสามารถในการสร้างโฆษณาแบบปรับแต่งตามพฤติกรรมของผู้ใช้ คุณสามารถปรับแต่งโฆษณาเพื่อเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เฉพาะที่พวกเขาดู เสนอโปรโมชัน หรือเน้นสินค้าที่เหลืออยู่ในรถเข็นสินค้า แนวทางแบบปรับแต่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการดึงดูดพวกเขาให้กลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ
สร้างการรับรู้แบรนด์
แม้ว่าผู้ใช้จะไม่กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้งในทันที แต่การทำการตลาดซ้ำจะช่วยให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจพวกเขาเสมอ ยิ่งผู้ใช้เห็นโฆษณาของคุณบ่อยขึ้นเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งคุ้นเคยกับธุรกิจของคุณมากขึ้นเท่านั้น ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่พวกเขาจะเลือกคุณเมื่อพวกเขาพร้อมที่จะซื้อ
การตลาด แบบแบ่งกลุ่ม
ช่วยให้คุณสามารถแบ่งกลุ่มผู้ชมตามหน้าที่พวกเขาเข้าชมหรือการกระทำที่พวกเขาทำ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างแคมเปญโฆษณาแยกต่างหากสำหรับผู้ใช้ที่ดูหน้าผลิตภัณฑ์ เพิ่มสินค้าลงในรถเข็นแต่ไม่ได้ชำระเงิน หรือเยี่ยมชมหน้าแรก วิธีนี้ช่วยให้คุณส่งข้อความที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมได้
วิธีการสร้างแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งที่ประสบความสำเร็จ
กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
ก่อนเริ่มต้น ให้กำหนดสิ่งที่คุณต้องการบรรลุด้วยแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งของคุณ คุณต้องการเพิ่มยอดขาย เพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียน หรือดึงดูดผู้เข้าชมไปยังหน้าเฉพาะหรือไม่ การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณวัดประสิทธิภาพของแคมเปญของคุณได้
ใช้สื่อสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ
โฆษณารีมาร์เก็ตติ้งของคุณควรดึงดูดสายตาและมีการเรียกร้องให้ดำเนินการ (CTA) ที่ชัดเจน ใช้รูปภาพหรือวิดีโอที่มีคุณภาพสูง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อความของคุณสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณก่อนหน้านี้
จูงใจให้ผู้ใช้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง
การเสนอส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษในโฆษณารีมาร์เก็ตติ้งของคุณอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น การเสนอส่วนลด 10% สำหรับการซื้อครั้งต่อไปสำหรับผู้ที่ละทิ้งตะกร้าสินค้าอาจเป็นแรงจูงใจให้พวกเขากลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง
ตรวจสอบความถี่
แม้ว่าการรีมาร์เก็ตติ้งจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่การทุ่มโฆษณาให้ผู้ใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิด “ความเบื่อหน่ายต่อโฆษณา” และส่งผลกระทบเชิงลบได้ กำหนดขีดจำกัดความถี่เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณจะแสดงในอัตราที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัด
ใช้ Analytics
ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งของคุณอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือเช่น Google Analytics ช่วยให้คุณติดตามตัวชี้วัดสำคัญ เช่น อัตราการแปลงและอัตราการคลิกผ่าน (CTR) เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณ
รีมาร์เก็ตติ้งเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าซึ่งแสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง การนำเสนอโฆษณาที่ตรงเป้าหมายและปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลจะช่วยเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ เพิ่มอัตราการแปลง และเพิ่มยอดขายได้ในที่สุด การนำรีมาร์เก็ตติ้งมาใช้กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของคุณจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากปริมาณการเข้าชมที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของความพยายามโฆษณาของคุณให้สูงสุด